เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ที่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ ห่มทรายอาบธรรมชาติ กินอัญมณีนกคุ่ม

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

Unseen ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่มทรายอาบธรรมชาติ กินอัญมณีนกคุ่ม

1625670840
ขนาดตัวอักษร

         สำรวจชุมชนบ้านทุ่งประดู่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม ดื่มด่ำธรรมชาติ เรียนรู้ประมงชายฝั่ง และเต็มอิ่มกับเมนูจาก "มะพร้าว" ของดีอำเภอทับสะแก
 


         เมื่อนึกถึง "ประจวบคีรีขันธ์" หลายคนอาจจะมีภาพจำที่ชัดเจนกับหัวหิน ปราณบุรี หรืออ่าวมะนาว แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีสถานที่ที่น่าไปเยือนอีกมากมาย หนึ่งในนั่นคือ "ชุมชนบ้านทุ่งประดู่" ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวชุมชนในมุมมองที่ต่างออกไป เพราะยังมีมนตร์เสน่ห์ซ่อนเอาไว้บนวิถีชีวิตชาวสวนมะพร้าวและชาวประมงที่ยังคงรักษาอยู่ ดังนั้น เส้นทางการท่องเที่ยวที่ชาวบ้านรวมตัวกันสร้างสรรค์ และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดยสำนักงานพื้นที่พิเศษฝั่งทะเลตะวันตก (อพท.8) เข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้การบริหารจัดการ จึงนำมาสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ยังคงอัตลักษณ์วิถีชีวิตของท้องถิ่น และสร้างรายได้ให้กับชุมชน
 


         หากจะพูดถึงที่มาของชื่อบ้านทุ่งประดู่ เห็นทีจะเดาไม่ยาก เพราะได้ชื่อตามต้นประดู่ ที่ในอดีตขึ้นเป็นทุ่งอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อมีบ้านเรือนเข้ามาตั้งจึงเรียกขานกันจนติดปากว่า "หมู่บ้านทุ่งประดู่" ซึ่งปัจจุบันยังมีต้นประดู่ให้เห็นอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดทุ่งประดู่ ประมาณ 3-4 ต้น และเมื่อถึงเวลาต้นประตู่เหล่านี้ก็จะออกดอกสีแดงสวย ให้ผู้คนที่ผ่านไป-มาเข้ามาเชยชมความสวยงาม
 


         ชาวบ้านในชุมชนทุ่งประดู่ส่วนใหญ่มีอาชีพหลัก คือ การทำประมงและทำสวนมะพร้าว จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดึงดูดผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาและร่วมภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นแห่งทุ่งประดู่ และได้รับรางวัล DASTA Award 2020 ชุมชนต้นแบบให้กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังเป็นกลุ่มศึกษาดูงานและ CSR ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ ให้บ้านทุ่งประดู่เป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป


         เมื่อมาเที่ยวชุมชนทุ่งประดู่ก็ต้องนั่งรถท้องถิ่นอย่าง "แท็กซี่ชุมชน" กันเสียหน่อย พาหนะชนิดนี้ทางชุมชนได้ดัดแปลงเอารถซาเล้งซึ่งชาวบ้านใช้ในการขนของมาทำเป็นแท็กซี่ ด้วยการต่อเติมหลังคาเพื่อเป็นร่มเงาให้กับผู้โดยสาร ที่นั่งกว้างขวาง สามารถเลือกตำแหน่งที่นั่งได้ตามใจชอบ โดยภารกิจสำคัญของแท็กซี่ชุมชนจะคอยทำหน้าที่พาเราตระเวนสำรวจชีวิตของชุมชนทุ่งประดู่ไว้อย่างน่าสนใจ 


         จุดหมายแรกของการแวะ คือ วัดทุ่งประดู่ วัดสำคัญที่เป็นดั่งศูนย์รวมแห่งความศรัทธาของชาวทุ่งประดู่ และกราบนมัสการหลวงพ่อแนะ พระวิปัสสนากรรมฐาน อดีตเจ้าอาวาสซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว หากแต่สังขารไม่เน่าเปื่อย จนเป็นที่เลื่อมใสทั้งคนในพื้นที่และรอบชุมชน รวมถึงพระนอนองค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณกลางวัด ตลอดจนพระอุโบสถหลังโต โดดเด่นด้วยเสมาเป็นเรือสำเภา และศาลาการเปรียญหลังเก่าที่ก่อสร้างด้วยไม้ประดู่ คงไว้ซึ่งความโอ่อ่าเหนือกาลเวลา ตลอดจนห้องที่เก็บวัตถุโบราณนานาชนิด ให้เราได้เดินดูเพลิน ๆ 
 


         ตลอดระยะทางของการนั่งแท็กซี่ชุมชน เราจะเห็นวิถีประมงชายฝั่ง โดยชาวบ้านจะทำประมงชายฝั่ง บ้างออกเรือเล็ก กู้อวนปู อวนปลา ซึ่งสัตว์ทะเลที่จับได้ ได้แก่ ปูม้า, ปูเรดาร์ และหมึกสาย นอกจากการทำประมงพื้นบ้านแล้ว ชาวบ้านยังนำอาหารทะเลที่ได้มาแปรรูปเป็นอาหารทะเลแห้งสำหรับการส่งออก อีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับชุมชน
 


         ตระเวนเที่ยวจากจุดต่าง ๆ มาสักพัก ขอหลบร้อนด้วยการหาของดีประจำชุมชน กับ "ขนมอัญมณีนกคุ่ม" ขนมชื่อดังแห่งชุมชนทุ่งประดู่ ด้วยวิธีการแปรรูปเนื้อมะพร้าวพันธุ์นกคุ่ม มะพร้าวพันธุ์ท้องถิ่น นำเอาเนื้อมะพร้าวที่อ่อนกำลังดีมาหั่น และแช่น้ำสมุนไพรให้เกิดสีสัน ได้แก่ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน เป็นตัวแทนสีของอัญมณี 3 ชนิด คือ ทับทิม เพชร และไพลิน หน้าตาออกมาคล้ายกับทับทิมกรอบ แนะนำให้กินกับน้ำแข็งใส่กะทิ หอมหวานชื่นใจ ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย
 


         รวมถึงการเดินเยี่ยมชมสวนเกษตรอินทรีย์ ณ ศูนย์การเรียนรู้บ้านทุ่งประดู่ ทับสะแก (หมู่บ้าน CIV บ้านทุ่งประดู่) มีการปลูกพืชผักชนิดต่าง ๆ ทั้งนี้ ชาวทุ่งประดู่ส่วนใหญ่มักจะทำการปลูกพืชผักสวนครัวไปพร้อม ๆ กับการทำนา ตลอดจนมีการรวมกลุ่มเกษตรกรสร้างเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดสารเคมี เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
 


 

         หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ มาทั้งวัน ปิดท้ายด้วยการผ่อนคลายกับกิจกรรม "ห่มทราย" เพื่อการฟื้นฟูร่างกายด้วยธรรมชาติบำบัด ว่ากันว่าหาดทรายบริเวณบ้านทุ่งประดู่ (ระยะความยาวของหาดประมาณ 2 กิโลเมตร) จะมีคุณสมบัติพิเศษในการทำสปาทราย คือ เป็นทรายเม็ดใหญ่ หยาบ มีเหลี่ยมมุมคล้ายคริสตัล ไม่จับตัวเป็นก้อน เนื่องจากทรายบริเวณนี้ไม่มีแร่ดินหรือเศษซกพืชปะปน เมื่อทรายเปียกน้ำจะเกาะติดตามผิวกาย แต่ก็ปัดออกได้อย่างง่ายดาย ประกอบด้วยธาตุต่าง ๆ มีแร่ควอตซ์เป็นหลัก รองลงมาเป็นเฟลด์สปาร์ และแร่หนัก เป็นส่วนน้อย 
 


         ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้ เชื่อว่าจะช่วยในเรื่องการกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการเหน็บชา อาการอัมพฤกษ์อัมพาต ดูดสารพิษ ขับถ่ายของเสียออกมาจากเซลล์ผิวได้ ก่อนเริ่มกิจกรรมชาวบ้านจะต้อนรับด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น จากนั้นค่อยให้เรานอนในหลุมทราย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ด้วยระยะเวลาและน้ำหนักของทรายที่กดทับ เราจะรู้สึกได้ถึงร่างกายที่โดนทรายดูด ถือเป็นกิจกรรมการผ่อนคลายตามวิถีภูมิปัญญาชาวบ้านที่ให้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง จบวันดี ๆ ที่ทุ่งประดู่ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ 
 


         การมาเที่ยวที่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ จึงเหมือนกับการที่เราเดินทางมาทำความรู้จักเพื่อนใหม่ รู้จักตัวตนที่แท้จริง จนเกิดความหลงใหล ซึมซับและรับรู้ถึงความน่ารักของแต่ละชีวิต ณ ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถมาสัมผัสได้

ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก หมู่บ้าน CIV บ้านทุ่งประดู่
เฟซบุ๊ก Dasta Thailand