องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

‘บ้านสามช่องเหนือ’ กับกิจกรรมทำให้ใจละลาย

1659421260
ขนาดตัวอักษร

สำรวจ ‘บ้านสามช่องเหนือ’ หมู่บ้านมุสลิมที่ตั้งอยู่กลางน้ำของอ่าวพังงา ที่ๆ ผู้คนยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย พึ่งพาและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ที่สำคัญในปัจจุบันยังเป็นชุมชนต้นแบบของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


เรื่องเล่าของหมู่บ้านกลางน้ำ 

          เดิมทีที่นี่ถูกเรียกว่า ‘ชุมชนทับเหนือ’ แต่ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่คลองสามช่อง ซึ่งพาดผ่านเหนือหมู่บ้าน และเป็นการไหลมาบรรจบกันของคลองบางหลาม คลองเชียงใหม่ และคลองตาจอ จึงถูกเรียกขานใหม่ว่า ‘บ้านสามช่องเหนือ’ ตั้งแต่ปี 2457 รวมทั้งการก่อสร้างบ้านเรือนของชุมชน ที่จากเดิมเป็นหลังคามุงจากฟากไม้ไผ่ และบันไดสามชั้น ก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้วัสดุที่ทนทานต่อแดด ฝน และพายุ ความธรรมดาทว่าพิเศษของบ้านสามช่องเหนือนั้น เป็นหมู่บ้านชนะการประกวดหมู่บ้านเข้มแข็ง และยังเป็นต้นแบบเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำหมู่บ้านอย่างผู้ใหญ่สุรัช สุมาลี ที่มองเห็นข้อดีของการมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เขาและผู้ช่วยจึงร่วมกันออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวของชุมชน คิดรูปแบบกิจกรรม เปิดโฮมสเตย์ และชูจุดเด่นเรื่องทรัพยากรที่มี ขึ้นมาเป็นจุดขาย 


หมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชน 
          แม้ว่าจะเกิดการต่อต้านจากคนในหมู่บ้านในช่วงแรก โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการทำโฮมสเตย์ ที่เป็นการเชื้อเชิญให้คนแปลกหน้าเข้ามาพักอาศัยอยู่ในชายคาเดียวกันกับชาวบ้าน แต่ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนบวกกับความตั้งใจอันแน่วแน่ของผู้นำหมู่บ้าน ที่ต้องการใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวแก้ปัญหา สร้างรายได้ และพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นชุมชนที่ยั่งยืน เมื่อเริ่มดำเนินโครงการมาสักพัก ชาวบ้านเริ่มเข้าใจและให้ความร่วมมือ กอปรกับได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน ทั้งองค์ความรู้ และค่าใช้จ่ายบางส่วน ทำให้โฮมสเตย์ที่จากเดิมเปิดให้บริการเพียงไม่กี่หลัง ขยับขยายเป็น 13 หลัง และเกิดเป็นกิจรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจนับสิบ จนสามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็น ‘การท่องเที่ยวโดยชุมชน’ โดยแท้  


กิจกรรมที่ทำให้ใจละลาย
          กิจกรรมท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสนั้น ล้วนเป็นการเสพและดื่มด่ำความงดงามจากธรรมชาติ ทั้งการนั่งเรือแคนูชมระบบนิเวศของป่าชายเลน รวมไปถึงมีการจัดตั้งธนาคารปูม้า ธนาคารหอยแครง ธนาคารหอยหลักควาย ฟาร์มหอยนางรม และการเลี้ยงปลากะพง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและศึกษาเรียนรู้
นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของกิจกรรมคือการนั่งเรือไปชมต้นปีปี 2 ต้น อายุเก่าแก่กว่า 80 ปี และอยู่เคียงกันกลางน้ำ เป็นต้นไม้ที่อยู่ใต้น้ำวันละ 7-8 ชั่วโมง ก่อนจะโผล่พ้นน้ำในช่วงสายของวันใหม่ รวมไปถึงการไปเยือน ‘ถ้ำเพชรปะการัง’ เกาะหินปูนที่เป็นจุดชมวิวอ่าวพังงาได้แบบ 180 องศา ซึ่งค้นพบและบุกเบิกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยคนในชุมชน ภายในถ้ำประกอบด้วยหินงอก หินย้อย ฝีมือรังสรรค์จากธรรมชาติ ปิดท้ายด้วยอาหารของชุมชน ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และหากินที่อื่นไม่ได้ อาทิ ‘หอยหลักควายลวกจิ้มมะพร้าวคั่ว’ เนื้อหอยเคี้ยวหนึบหนับกินคู่กับน้ำจิ้มมะพร้าวคั่วรสเปรี้ยวหวาน ‘ขนมเสือคลุก’ ขนมพื้นบ้านลักษณะเป็นแป้งปั้นทรงกลมที่ต้มจนสุก คลุกกับมะพร้าวที่เคี่ยวกับน้ำตาลแดง ตลอดจน ‘กะปิด 3 ช่อง’ ที่ทำจากเคยแท้ๆ ถือเป็นของดีมีชื่อ และว่ากันว่าน่าหิ้วกลับบ้านเป็นที่สุด