ข่าวสารเทคโนโลยี (2025)

1755597600

ขนาดตัวอักษร

ปฏิวัติวงการเมมโมรีการ์ด จีนเปิดตัว Mini SSD เล็กพอ ๆ กับซิมการ์ดแต่เร็วถึง 3,700 MB/s

นี่ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ในวงการ SSD (Solid-State Drive) เพราะล่าสุด Biwin บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำในจีน กำลังจะเปิดตัว “Mini SSD” ที่เร็วไม่ต่างจาก SSD แต่มีขนาดเล็กเท่า ๆ กับ MicroSD จนสามารถเอาไปใส่ในสมาร์ตโฟน หรือเครื่องเล่นเกมพกพาได้ !

Mini SSD หรือที่ผู้ผลิตหลายแบรนด์เรียกว่า SSD 1517 มีจุดเด่นเรื่องขนาดที่เล็กมาก ตามสเปกจะอยู่ที่ 15 x 17 x 1.4 มม. หรือใหญ่กว่า microSD และ Nano Sim เล็กน้อย เล็กน้อย แต่กลับมีความเร็วในการอ่านข้อมูลที่สูงถึง 3,700 MB/s และความเร็วในการเขียน 3,400 MB/s (บนการเชื่อมต่อแบบ PCIe 4×2) พร้อมตัวเลือกความจุ 512GB, 1TB และ 2TB

ถ้าถามว่า Mini SSD เร็วแค่ไหน หากเทียบกับการ์ดเก็บข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าจับมาชนกับ MicroSD Express ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีขนาดตัวพอ ๆ กัน (ความเร็วสูงสุด 985 MB/s) จะเร็วกว่าถึง 3 เท่า และถ้าชนกับ SD Express (ความเร็วสูงสุด 3,940 MB/s) แม้มีความเร็วน้อยกว่านิดหน่อย แต่ได้เปรียบเรื่องขนาดที่เล็กกว่า 2 เท่า

นอกจากนี้ทาง Biwin ยังเคลมว่า Mini SSD ของพวกเขา รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 แลยังมีความทนทาน ที่รอดจากการตกในความสูง 3 เมตร

แม้จะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีข่าวออกมาแล้วว่าเครื่องเล่นเกมพกพาใหม่ ที่ถูกเอามาโชว์ในงาน ChinaJoy อย่าง GPD Win 5 และ OneXPlayer Super X จะรองรับ Mini SSD และมีช่องใส่โดยเฉพาะ เหมือนช่องใส่ซิมการ์ด หรือ MicroSD ในสมาร์ตโฟน ที่จะต้องใช้เข็มจิ้มเพื่อดึงถาดออกมา เพื่อใส่หรืออัปเกรด ถึงจะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า Mini SSD จะกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการเก็บข้อมูลหรือเปล่า รวมถึงข้อมูลราคาและวันที่ขาย แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และอาจจะเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกเลยก็ได้ เพราะมันตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความเร็วและขนาดความเล็กที่ใส่กับอุปกรณ์พกพาได้หลากหลายรูปแบบ

ที่มา :

theverge

...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

อนาคตของการนำ AI เข้ามาใช้ออกแบบและพัฒนาซอฟแวร์

Google เปิดตัว Flight Deals ใช้ AI ช่วยหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก พร้อมจัดทริป

Google ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Flight Deals บนแพลตฟอร์ม Google Flights โดยใช้ AI ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้สะดวกขึ้น เพียงพิมพ์คำถามง่าย ๆ เช่น ทริป 7 วันช่วงฤดูหนาว ไปเมืองที่มีอาหารอร่อย เที่ยวบินตรง ทริปเที่ยวญี่ปุ่น 5 วันแบบประหยัดงบ หรือ ทริปสกี 10 วัน ไปรีสอร์ตลักชูรีที่มีหิมะตกใหม่

AI จะค้นหาตัวเลือกที่ตรงใจจากข้อมูลโดยตรงจาก Google Flights แบบเรียลไทม์ โดยใช้ AI Gemini 2.5 ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อวิเคราะห์คำค้นหา ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้งานในเวอร์ชันทดลอง (beta) ภายในสัปดาห์หน้าในสหรัฐฯ แคนาดา และอินเดีย เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้งาน

แม้เครื่องมือนี้จะช่วยค้นหาตั๋วที่ราคาถูก แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบริการของสายการบินนั้น ๆ โดยแสดงข้อเสนอที่มีส่วนลดสูงสุดก่อน หากส่วนลดเท่ากัน จะเรียงตาม ราคาต่ำสุด และสำหรับข้อเสนอที่ไม่มีส่วนลด จะจัดเรียงตาม ราคาต่ำสุด เช่นกัน เนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินเปลี่ยนแปลงบ่อย ในการจัดอันดับราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้

อย่างไรก็ตาม การขยายบทบาทของ Google ในบริการการท่องเที่ยวกำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขัน โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป ซึ่งมีความกังวลว่าการบริการของ Google อาจทำให้ผู้ให้บริการการท่องเที่ยวเจ้าอื่น ๆ เสียเปรียบจากการเปิดตัว Google Flights ให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง อาจเข้าข่ายการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากผูกขาด โดยใช้กฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act) มาควบคุม ซึ่ง Google ได้เสนอแนวทาง อาจเตรียมเพิ่มช่องเปรียบเทียบราคาจากเว็บไซต์อื่น ๆ เข้ามาเพื่อลดความกังวล

แต่ในสังเวียนบริการแนะนำเที่ยวบินและที่พักที่ใช้ AI ก็ถือว่า Flight Deals จาก Google ก็นำ AI มาใช้กับบริการนี้ช้ากว่าเจ้าอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ต้องรอดูต่อไปว่าโปรเจกต์ AI กับการท่องเที่ยวของ Google จะเปลี่ยนทิศทางของวงการนี้ไปอย่างไรบ้าง