องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

อพท.เชียงราย ลงพื้นที่ดำเนินการตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนห้วยสัก

1720451880
ขนาดตัวอักษร

อพท.เชียงราย ลงพื้นที่ดำเนินการตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนห้วยสัก

วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. มอบหมายให้ อพท.เชียงราย ลงพื้นที่ชุมชน ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ ซึ่งมอบหมายให้ อพท. บูรณาการและประสานกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศปางควาย ตำบลหัวยสัก ปรับปรุงภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยวรวมทั้งรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดให้หน่วยงานตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีรายงานความก้าวหน้าการดำเนินกานในส่วนที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗

การลงพื้นที่ดังกล่าว อพท.เชียงราย ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารเทศบาลตำบลห้วยสักและผู้นำชุมชนบ้านใหม่นาวา อาทิ ประธานสภาเทศบาลตำบลห้วยสัก รองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยสัก เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลห้วยสัก ผู้ใหญ่บ้านใหม่นาวา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใหม่นาวา นักประชาสัมพันธ์ และนักวิชาการเกษตร เทศบาลตำบลห้วยสัก ให้การต้อนรับ นำชม และให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการพัฒนา ทั้งนี้ ชุมชนห้วยสัก มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ ศูนย์วิปัสนาไร่เชิญตะวัน ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟสันป่าเหียง (รถไฟรางคู่ความเร็วปานกลางสายสายเด่นชัย – เชียงของ) ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี ๒๕๗๑ หนองหลวง หนองน้ำธรรมชาติพื้นที่ ๙,๐๐๐ ไร่ ใหญ่ที่สุดของ จ.เชียงราย เชื่อมโยงพื้นที่ ๒ อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงราย และ อ.เวียงชัย ที่ผ่านมามีการพัฒนาหนองหลวงโดยการก่อสร้างเส้นทางจักรยาน แต่ยังไม่แล้วเสร็จโดยรอบเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวโดยการจัดแข่งขันวิ่งเพื่อสุขภาพ และจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาหนองหลวง แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศปางควาย ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงควายของคนในชุมชนมาแต่โบราณ ปัจจุบันมีจำนวนควายที่ปล่อยหากินตามธรรมชาติในหนองหลวงไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ตัว พื้นที่บางส่วนชุมชนสงวนรักษาเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ นกน้ำ นกอพยพตามฤดูกาล และพันธุ์ไม้หายาก มีการขุดพบโบราณวัตถุ เช่น ฆ้องโบราณ จำนวน ๑๒ ใบ มีเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับนครเมืองโยนกไชยบุรี ซึ่งล่มจมหายไปในสมัยพระเจ้ามหาไชยชนะ เมื่อพุทธศักราช ๓๗๐ ในสมัยอาณาจักรเชียงแสน จากเหตุอาเพศแผ่นดิน มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมและทำกิจกรรมในพื้นที่ เช่น กลุ่มนักปันจักรยาน กลุ่มนักตกปลา และกลุ่มนักดูนก แต่จำนวนไม่มากนัก ทั้งนี้ ผู้นำชุมชนประสงค์ให้หนองหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับศูนย์วิปัสนาไร่เชิญตะวัน และสะพานข้ามหนองหลวง ในเขต อ.เวียงชัย ซึ่งเป็นสะพานที่มีความสวยงามและยาวที่สุดของ จ.เชียงราย ความยาวเกือบ ๒ กม. เพื่อดึงดูนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น แต่ชุมชนยังไม่มีการจัดตั้งกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน และบุคลากรด้านการท่องเที่ยวยังไม่เคยได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยว