องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

AKHA STYLE ที่บ้านแม่ไร่…เรื่องเล่าจากผืนผ้าสู่การออกแบบและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

1758351900
ขนาดตัวอักษร

AKHA STYLE ที่บ้านแม่ไร่…เรื่องเล่าจากผืนผ้าสู่การออกแบบและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

          ชุมชนบ้านแม่ไร่ ตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนเส้นทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยื่อนจังหวัดเชียงราย คือ พื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงราย ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เป็นชุมชนชาติพันธุ์อาข่าที่มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรม และการรังสรรค์สินค้าจากภูมิปัญญา ผ่านการนำเสนอเรื่องเล่ามากมายที่ซ่อนอยู่ในลวดลายผ้าปักอาข่า ทุกฝีเข็มคือประวัติศาสตร์ที่เล่าด้วยมือของเจ้าของภูมิปัญญา ทุกสีสันคือเสียงสะท้อนของความเชื่อและวิถีชีวิตที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น วันนี้ “ผ้าปักอาข่า” ไม่ได้เพียงใช้สอยสำหรับสมาชิกในครัวเรือนอีกต่อไป แต่ก้าวสู่โลกใหม่ของการออกแบบสร้างสรรค์ลวดลายบนเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องใช้ต่างๆ และเครื่องประดับ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชาติพันธุ์อาข่าให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักและเรียนรู้ไปด้วยกัน ลวดลายที่สร้างสรรค์ลงบนพื้นผ้า สะท้อนถึงเรื่องราววิถีวัฒนธรรม การดำรงชีวิต ธรรมชาติของถิ่นอาศัย ได้อย่างมีเอกลักษณ์ นำไปประกอบกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างร่วมสมัย จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์แต่เป็นการปลุกวัฒนธรรมอาข่าให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

          ปัจจุบันการขับเคลื่อนนโยบายการต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Soft Power มีบทบาทหนุนเสริมให้ชาวอาข่าบ้านแม่ไร่มีพลังที่จะยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนวิถีชีวิตวัฒธรรมที่เข็มแข็ง สู่การท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์กระแสความยั่งยืน สามารถการรักษาความสมดุลของชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เห็นได้อย่างชัดเจนจากการนำวิถีชีวิตและทุนทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของชาติพันธุ์อาข่า ทั้งภาษา อาหาร ความเชื่อ และงานหัตถกรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน มาพัฒนาเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) นอกจากนี้ ชุมชนยังจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมอาข่า แหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้จากภูมิปัญญาของคนในชุมชน และเรื่องเล่าที่สื่อถึงความภาคภูมิใจในรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์อาข่าอย่างครบถ้วน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งการนำเสนองานประเพณีและความเชื่อผ่านพิธีกรรมของชุมชน เช่น ประเพณีโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวอาข่า ที่สมาชิกชุมชนต่างมาร่วมชุมนุมกันเพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน ทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบสานการแต่งกายชาติพันธุ์อาข่า ที่พร้อมอวดโฉมลวดลายผ้าปักพร้อมเครื่องประดับสมัยเก่าและสมัยใหม่ บนอาภรณ์การแต่งกายที่สวยงาม ส่งผลให้ประเพณีโล้ชิงช้าในทุกๆ ปี เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม ไม่เพียงแต่วัฒนธรรมการแต่งกายที่น่าตื่นตาตื่นใน ยังมีพิธีกรรม และอาหารพื้นถิ่นรสชาติอร่อย ถูกนำไปต่อยอดให้เป็น “ทุนวัฒนธรรม” เพื่อพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ทำให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาชาติพันธุ์อาข่ากับเจ้าของภูมิปัญญาตัวจริง และได้สร้างสรรค์ผลงานผ้าปักชาติพันธุ์อาข่าด้วยตนเอง พร้อมเรียนรู้ความหมายของลวดลายแต่ละแบบ ชิ้นงานที่ได้สามารถนำกลับไปเป็นของที่ระลึก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่เกิดจากการต่อยอดลวดลายเครื่องประดับของชาวอาข่าให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำอื่นๆ อาทิ การปักและเย็บกระเป๋าห้อยคอ การสาธิตการประกอบอาหารพื้นบ้าน ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการสืบสานศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของชุมชนอีกด้วย

          จากความโดดเด่นของการสร้างสรรค์วัฒนธรรมอาข่าของชุมชนแม่ไร่ ทำให้ชุมชนได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม “Chiang Rai Fashion to The World” เพื่อยกระดับผ้าไทยชาติพันธุ์จังหวัดเชียงรายสู่ระดับประเทศและระดับโลก จากความพยายามในการยกระดับภูมิปัญญาวิถีอาข่าสู่การเพิ่มมูลค่าของมรดกวัฒนธรรม ชุมชนแม่ไร่ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่น่าสนใจบนเส้นทางท่องเที่ยวสู่ดอยตุง แต่กลับเป็นชุมชนที่มีความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ ร่วมด้วยช่วยกันผลักดันคุณค่าวิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ของตนเองจากที่เคยเป็นเพียงสินค้า สู่ผ้าปักชาติพันธุ์อาข่าที่มีชี่วิตพร้อมพรั่งด้วยลวดลายบนผ้าปัก กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สนใจกลับมาเรียนรู้ศิลปะของบรรพบุรุษ พร้อมใช้ความคิดสร้างสรรค์ยกระดับมรดกวัฒนธรรมชาติพันธุ์อาข่าให้มีคุณค่าควรแก่การรักษาและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตอบสนองนโยบาย Soft Power ที่มุ่งใช้ทุนทางวัฒนธรรม (Culture Capital) สร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าปัก การสื่อความหมายวิถีชีวิตผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยว และการสื่อสารเรื่องราวของชุมชนผ่านสื่อดิจิทัล ซึ่งล้วนช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาติพันธุ์อาข่าในเชียงราย สู่ความภาคภูมิใจของชุมชนท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และหนุนเสริมการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ด้านการออกแบบ (UNESCO Creative City of Design) ของจังหวัดเชียงราย นำไปสู่การเชื่อมโยงแรงบันดาลใจการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ในระดับสากล


         การยกระดับทุนทางวัฒนธรรมด้วย Soft Power ของชุมชนแม่ไร่ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการเชื่อมโยง อัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ เข้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ชุมชนไม่ได้เพียงรักษาวัฒนธรรม แต่ใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็นพลังสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิต การต่อยอดด้านการออกแบบและการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ไม่เพียงช่วยให้วัฒนธรรมอาข่าได้รับการอนุรักษ์ แต่ยังช่วยให้ชุมชนแม่ไร่ก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และยั่งยืนต่อไป