การเดินทางของเส้นด้ายและวิถีชีวิตไทยองบนผืนผ้า สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
การเดินทางของเส้นด้ายและวิถีชีวิตไทยองบนผืนผ้า สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
บ้านสันทางหลวง ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี การแต่งกาย อาหารพื้นถิ่น และภาษาถิ่น ตามแบบชาติพันธุ์ไทยอง ซึ่งเริ่มอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ ที่ตั้งหมู่บ้านปัจจุบันครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2486 จำนวน 7 ครัวเรือน ต่อมามีการอพยพย้ายถิ่นจากที่ต่างๆ เข้ามมาอยู่เรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่อพยพมาจากบ้านป่างิ้ว บ้านสันคายี บ้านเหมืองลึก บ้านป่าต้น จังหวัดลำพูน จน กลายมาเป็นหมู่บ้านสันทางหลวงเหมือนเช่นในปัจจุบัน ตระกูลดั้งเดิมเป็นชาวไทยอง ประชากรส่วนใหญ่ยังคงพูดภาษายองเพื่อการสื่อสารกันในชุมชน ปัจจุบันบ้านสันทางหลวงมีบ้านเรือนอยู่ 196 ครัวเรือน จำนวนประชากรรวมทั้งสิ้น 425 คน แบ่งเป็นชาย 204 คน และหญิง 221 คน
ลวดลายผ้าปักตามจินตนาการ การเดินทางของเส้นด้ายและเรื่องราวที่ถูกถักทอ
ในโลกของงานฝีมือ ศิลปะการปักผ้าเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่เก่าแก่และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ไม่เพียงแต่เป็นการตกแต่งผืนผ้าให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก และจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ลงไปในทุกๆ ฝีเข็ม ชาวชุมชนสันทางหลวงเริ่มพัฒนาทักษะปักผ้าด้วยมือ ในปี พ.ศ.2542 เพื่อเป็นอาชีพเสริมแก่สมาชิกในชุมชนตั้งแต่วัยทำงานจนถึงวัยผู้สูงอายุ ใช้เวลาที่ว่างจากการทำนาและแปลงเกษตร โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้จากนางนิธี สุธรรมรักษ์ หรือ ป้านิ ประธานกลุ่มอาชีพผ้าปักด้วยมือ บ้านสันกอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นผู้เข้ามาสอนการปักผ้าด้วยมือเพื่อเป็นอาชีพเสริมชาวแก่ชาวบ้านสันทางหลวง เมื่อชาวบ้านเริ่มปักลวดลายต่างๆ บนผืนผ้าสี่เหลี่ยมเล็กๆ ต่างคนต่างใช้จินตนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบตัว บอกเล่าวิถีชีวิตประจำวัน และถักทอเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปในชีวิตและสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น ความรู้สึกสุข เศร้า หรือรัก ปรากฏเป็นลวดลายและสีสันบนผืนผ้า แม้บางครั้งรูปทรงหรือเส้นด้ายอาจจะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ก็สามารถสะท้อนอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง และแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของผู้ปักผ้าแต่ละคน การปักผ้านอกจากช่วยสร้างสมาธิแล้ว ยังสามารถบำบัดจิตใจไปในตัว เป็นการปลดปล่อยความคิดและอารมณ์ผ่านฝีเข็มแต่ละครั้งที่ปักลงบนผืนผ้า ทำให้ผ้าธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะที่มีชีวิต มีเรื่องราวที่รอให้ผู้คนเข้ามาค้นพบ ชิ้นงานแต่ละชิ้นจึงมีความพิเศษเฉพาะตัว เป็นเพียงชิ้นเดียวในโลก ทำให้ช่างปักผ้ากลายเป็นศิลปินที่มีผลงานชิ้นเอก ทยอยสร้างสรรค์ออกมาเรื่อยๆ มีการต่อยอดจนเกิดความสวยงามและนำไปสู่การสร้างมูลค่าแก่ผลงานสร้างสรรค์ดังกล่าว มีการรวมกลุ่มสตรีเพื่อปักผ้าอย่างจริงจัง เกิดรายได้ให้กับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้หญิงในชุมชน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางของหลายชุมชน แต่ที่บ้านสันทางหลวงกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ กับมีรายได้เป็นของตัวเอง ทำให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าในตัวเองที่เป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้ให้กับครอบครัว และยังช่วยสร้างวิถีวัฒนธรรมการปักผ้าของชาวยองให้คงอยู่ต่อไป โดยการถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ในชุมชน
กลุ่มปักผ้าบ้านสันทางหลวง ได้รับการต่อยอดองค์ความรู้และทักษะการปักผ้า ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการปักผ้าให้มีความหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของตลาด อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว ผ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีไทย วิถียอง สันทางหลวง ที่เกิดจากการรวมกลุ่มอาชีพในชุมชนบ้านสันทางหลวง เช่น การปักผ้า และการทำหมอนใบชาดูดกลิ่น ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของกลุ่มวิสาหกิจฯ ส่งผลให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนับสนุน ทั้งด้านเงินทุน ความรู้ การผลักดันให้สินค้าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเข้าสู่ตลาดจนได้รับความนิยม กลายเป็น Soft Power ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความภาคภูมิใจให้กับชุมชนบ้านสันทางหลวง
สู่ Soft Power กิจกรรมท่องเที่ยวของชุมชน
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสไปเยือน วิสาหกิจชุมชนวิถีไทย วิถียอง สันทางหลวง จะได้เห็นภาพผู้สูงอายุจับกลุ่มนั่งเล่นพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันกันอย่างสนุกสนาน พร้อมปักผ้าในมืออย่างมีความสุข ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ และพร้อมที่จะสอนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีอย่างหลากหลาย เช่น กิจกรรมปักหมอนใบชาดูดกลิ่น ที่ใช้ใบชาอบแห้งจากเครือข่ายชุมชนในจังหวัดเชียงราย ถุงสำหรับใส่ใบชาที่มีลวดลายปักสวยงานในรูปแบบของบ้านสันทางหลวง นักท่องเที่ยวจะได้ลงมือทำโดยนำใบชาใส่ถึงชาที่เตรียมไว้ แล้วเย็บถงชาด้วยตนเอง ซึ่งสามานำกลับไปเป็นของที่ระลึก หรือหากนักท่องเที่ยวอยางลงือปักผ้าด้วยตนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งกิจกรรมเรียนรู้การปักผ้า นักท่องเที่ยวจได้ทดลองปักผ้าลวดลายต่างๆ เช่น ลายทุ่งนา ลายรวงข้าง ลายก้นหอย ลายไก่ ลายแมว ลายสุนัข หรือจะปักผ้าตามจินตนาการของตนเอง
กิจกรรมปักผ้า นอกจากเป็นงานฝีมือที่สร้างรายได้แก่ชาวบ้านสันทางหลวงแล้ว ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสามัคคีแล้ว เป็นกิจกรรมที่ผู้สูงวัยในหมู่บ้านได้ใช้ในการการพบปะพูดคุยกันในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังช่วยสร้างสมาธิทำจิตใจให้สงบในระหว่างที่ได้ลงเข็มปักผ้า การได้ปลดปล่อยไปกับการปักผ้าตามจิตนาการ ก็นับเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้อีกแบบ ท้ายนี้อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว ณ หมู่บ้านสันทางหลวงแห่งนี้ นอกจากจะได้สัมผัสกับกิจกรรมปักผ้าและปักหมอนใบชาแล้ว วิวิสาหกิจชุมชนวิถีไทย วิถียอง สันทางหลวง ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้ได้ชมและลงมือทำ เช่น กิจกรรมด้านอาหาร กิจกรรมชมสวนผักปลูกผัก หรือสนใจผลิตภัณฑ์ที่ประยุกต์จากผ้าปักมือ ซึ่งจะเป็นชิ้นเดียวในโลก
สามารถติดต่อได้ที่นางสังเวียน ปรารมภ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08 6992 5679 หรือที่ เฟสบุ๊ค วิถีไทย วิถียอง บ้านสันทางหลวง