ท่องเที่ยวสายมูเตลูเมืองเชียงแสน เสริมดวง อิ่มบุญ อิ่มใจริมโขง
ท่องเที่ยวสายมูเตลูเมืองเชียงแสน เสริมดวง อิ่มบุญ อิ่มใจริมโขง
เปิดประสบการณ์มูเตลูแบบล้านนา กับกิจกรรมสุดพิเศษจากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
พาไปรู้จักเมืองโบราณแห่งศรัทธา ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยสืบสาน ส่งเสริม และอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ยั่งยืน ส่งเสริมการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าและตำนาน วัฒนธรรม ประเพณี ที่มีมายาวนานของเมืองโบราณเชียงแสน ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูวัฒนธรรมที่สูญหาย และร่วมปกป้องมรดกทั้งทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติของเมืองเชียงแสน ทั้งยัง มีเป้าหมายที่จะกระจายรายได้ กลับสู่ชุมชนด้วยการจัดโปรแกรมและกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสนได้นำความเชื่อ และความศรัทธาในสมัยโบราณ ของเมืองเชียงแสน มานำเสนอเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นกิจกรรมท่องเที่ยว อาทิ ทักษาโหราบูชาพระธาตุ สะเปาคำนำสุข
พี่วัตร ยศภัทร ยกยิ่ง ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ได้เล่าว่า ใช้บ้านฮอมผญ๋าล้านนาเชียงแสนเป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้ และภูมิปัญญา ทำให้ทราบถึงประวัติศาสตร์เมืองเชียงแสน วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมและภูมิปัญญาโบราณ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เริ่มต้นด้วยการตรวจดวงชะตา ตามทักษาโหรา และทำเครื่องสักการะล้านนาเพื่อนำไปบูชาพระธาตุตามทักษาและคำทำนาย ซึ่งเชียงแสน มีทั้งวัดประจำเมืองและวัดร้างมากถึง 76 วัด หากดวงถูกคล้องกับวัดไหน หรือต้องการเสริมดวงเรื่องอะไร ก็จะพาไปทำบุญสักการะเสริมดวงชะตาที่วัดนั้น อาทิ วัดเจดีย์หลวง หรือ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง 1 ใน 76 วัดที่เป็นวัดที่เก่าแก่ของเมืองเชียงแสน หากใครมาถวายสักการบูชาที่วัดแห่งนี้แล้ว สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมดั่งใจปรารถนาทุกประการ หรือวัด (ร้าง) ในทิศมงคลของเมือง เพื่อเสริมชะตาให้ดีขึ้น
ทักษาโหรา บูชาพระธาตุเมืองเชียงแสน
เรื่องทักษาเป็นความเชื่อในเรื่องจักรวาลคติ ที่คนในสมัยโบราณได้นำมาใช้ในการสร้างบ้านแป้งเมือง สันนิษฐานว่าเมืองเชียงแสน ก็น่าจะได้รับอิทธิพลในการสร้างเมืองโดยใช้หลักทักษาเช่นเดียวกัน ยังปรากฏ หลักฐานที่ค้นพบได้ มี 3 ประการ คือ
1. การเสด็จเข้าเมืองของพระยาแสนภูทางด้านทิศเหนือ ทั้งที่กองทัพของพระองค์สามารถเข้าเมือง ในทิศอื่นได้สะดวกกว่า
2. ตำแหน่งที่ตั้งของเสาสะดึกเมือง (เสาหลักเมือง) ซึ่งอยู่กึ่งกลางเมืองเชียงแสนพอดี
3. ตำแหน่งของประตูหนองมูตหรือประตูผี ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งของทิศที่เป็นกาลกิณีเมือง เมื่อเยา หลักทักษามาพิจารณาควบคู่ไปกับแผนผังของเมืองเชียงแสนจะพบว่า เชียงแสนมีวัดสำคัญๆ ตั้งอยู่ ในทิศทั้ง 4 ตามหลักทักษาได้อย่างลงตัว ในแต่ละทิศที่จะมีดวงดาวที่จะส่งผลในด้านที่แตกต่างกัน ครูมลักขณาราศีของเจ้าชะตาผู้ดูทักษา
ดังนั้น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน จึงนำเอาหลักทักษามาเป็นตัวเดินเรื่อง ในการนำเที่ยวชมเมืองโบราณเชียงแสน ให้ท่านได้รู้จักวัดสำคัญในทิศมงคลที่หลายคนอาจยังไม่เคยได้สัมผัส แต่ละวัดก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องเล่าและความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม และเพื่อเป็นการปลุก แรงศรัทธาให้กับวัดเหล่านั้น ทางกลุ่มฯ ได้มีการแนะนำให้เจ้าชะตาที่มาดูทักษาทำเครื่องสักการะ แล้วนำไปถวายบูชาเพื่อเสริมดวงชะตาในด้านต่างๆ และเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ตามวัดสำคัญ ในทิศที่พ้องกับดวงชะตาของคนผ่านกิจกรรม “ทักษาโหรา บูชาพระธาตุ” ด้วย
ปัจจุบัน นอกจากการมาตรวจดวงชะตา ตามทักษาโหรา นักท่องเที่ยวนิยมมาทำกิจกรรมเครื่องสักการะ และนำไปเครื่องสักการะถวายเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตและอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเจดีย์หลวง หรือ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง เป็นวัดที่เก่าแก่ของเมืองเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรล้านนาไท เมื่อ พ.ศ. 1887 (ประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 19 ) มีพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดซึ่งสูงถึง 88 เมตร มีฐานกว้าง 24 เมตร เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสน
นอกจากนี้ ยังมี กิจกรรมทำสะเปาคำนำสุข เรือสะเปา หรือสำเภา ที่ทำจากก้านกล้วย วัสดุธรรมชาติ ตามแบบความเชื่อล้านนา โดยจะทำอาหารคาว อาหารหวาน และขนม ใส่ใน “สะเปา” แล้วลงเรือนำสะเปาไปลอยกลางลำแม่น้ำโขง เพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา และเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับ ให้เดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี ตลอดจนขอบารมีพระแม่คงคาผ่านลำน้ำโขง โดยมีการตกแต่งสะเปาด้วยกระดาษสีและส่งของใช้ไปให้ผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีบริการนั่งรถรางชมเมืองเชียงแสน รอบเมืองเชียงแสน เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าและตำนาน วัฒนธรรม ประเพณีที่มีมายาวนานของเมืองโบราณเชียงแสน กำแพงเมืองเชียงแสน ตลอดจนวัด และโบราณสถานต่างๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรมที่สูญหาย และร่วมปกป้องมรดกทั้งทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติของเมืองเชียงแสน ซึ่งภายในเส้นทางมีพานักท่องเที่ยวไป “วัดป่าสัก” อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ห้ามพลาด วัดป่าสัก อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงแสนออกไปนอกเมืองเชียงแสนผ่านประตูเชียงแสนออกไปนิดนึง เป็นวัดที่พระยาแสนภูสร้างเป็นวัดที่ 3 ให้พระสังฆราชมาปกครองดูแลพระสงฆ์ที่วัดนี้ เรื่องสถาปัตยากรรมของเจดีย์วัดป่าสักจะมีศิลปกรรมห้าชาติ จะมีจีน พม่า หริภุญชัย สุโขทัยแล้วก็เขมร โดยตัวองค์เจดีย์เป็นรูปทรงของหริภุญชัยเหมือนกับวัดกู่กุดของเมืองหริภุญชัย และก็จะมีพระพุทธรูปซึ่งเป็นสุโขทัย มีลายหน้ากาล หรือสัตว์ต่างๆ ที่จะเป็นเขมร แล้วก็จะมีใบระกาซึ่งเป็นของพม่า แล้วก็จะมีลายดอกโบตั๋น ดอกบัวจะเป็นศิลปะของจีน เป็นวัดที่มีศิลปะปูนปั้นที่สวยงดงามที่สุดในเมืองเชียงแสนรวมศิลปะห้าชาติอยู่ในที่เดียวกัน ลักษณะฐานเจดีย์ก็เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัตมียอดห้ายอดแต่ว่ายอดทั้งสี่หักลงไปเพราะแผ่นดินไหวเหลือเพียงยอดเดียว ร่องรอยของวัดนี้สันนิษฐานว่าน่าจะลงลักปิด
เมื่อมาท่องเที่ยวเมืองเชียงแสนแล้ว สิ่งห้ามพลาดอีกหนึ่งอย่าง คือ อาหารเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจและสามารถสื่อถึงวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน ได้นำเสนออาหาร ทั้งคาวและหวาน คือ ชุดอาหารสี่แผ่นดิน ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านอาหาร 4 ชาติ คือ พม่า ไทย จีน และลาว แยกเป็นเมนูอาหาร คาว 4 เมนู และเมนูอาหารหวาน 1 เมนู ดังนี้
เมนูที่ 1 ข้าวเหลืองอุ๊กไก่ แกงอุ๊กเชียงตุงกินคู่กับข้าวเหลืองดอกกุ๊ก (พม่า)
เมนูที่ 2 มัจฉาลงโขง เนื้อปลาบึกราชินีลุ่มน้ำโขงชุบแป้งทอดราดซอลมะขาม (ลาว)
เมนูที่ 3 สลัดเชียงแสน น้ำสลัดสามรสราดผักพื้นบ้านนานาชนิดกรุบกรอบด้วยเส้นซอยทิดและแคบหมู (ไทย)
เมนูที่ 4 เห็ดผัดหม่าล่า เห็ดทอดราดซอลหม่าล่ากลิ่นอายจากแดนมังกร (จีน)
เมนูที่ 5 บัวลอยไทยวน แป้งข้าวเหนียวเขี้ยวงูหลากสีสันปั้นกลมสอดไส้ ไส้ขนมเทียนลอยนำกะทิ (ไทย)
"ขนมบะหิน" เกิดจากการรังสรรค์ขนมใหม่ๆ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวเชียงแสนที่ผูกพันกับลำน้ำโขง มาใช้ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเพื่อสังคมเชียงแสน ใช้แนวคิดที่ว่า ชุมชนเมืองเก่าเชียงแสนมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่คู่กับแม่น้ำโขงจากประเทศจีนมีก้อนหินก้อนใหญ่ เมื่อมาถึงเชียงแสน เกิดการกระทบเกาะแก่งต่างๆ จนหินเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย เปรียบเสมือนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน ที่รวมกลุ่มกันจากหลากหลายพื้นที่และคนเชียงแสนด้วย ซึ่ง ขนมบะหิน ในแต่ละลูกมีไส้ไม่เหมือนกัน จากงาม่อน ถั่วเหลือง ถั่วแดง และงา สุดท้าย คือ ขนมบะหิน ไม่ได้เกิดจากท่า แต่ก็สร้างคุณค่าให้ท่านั้นได้
การท่องเที่ยวสายมูเตลูเชียงแสน
คือ การเดินทางที่ได้ทั้ง “ศรัทธา วัฒนธรรม และความสุขทางใจ” ในคราวเดียว
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน
ที่ตั้ง : 393 หมู่ที่ 8 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ติดต่อสอบถาม
คุณมัชฌิมา ยกยิ่ง ผู้ประสานงาน
โทรศัพท์ : 062 809 5831
Facebook : วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน