องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

เยือนชุมชนบางปู จ.ปัตตานี สนุกกับกิจกรรมล่องเรือผ่านอ้อมกอดของป่าชายเลน

          ชุมชนบางปู จังหวัดปัตตานี ชุมชนมุสลิมเล็ก ๆ โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ทั้งยังรายล้อมด้วยระบบนิเวศอันสมบูรณ์ พร้อมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส

          ชุมชนบางปู ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ชุมชนที่ยังคงมีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำและป่าชายเลน อันเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวประมงพื้นบ้าน และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสินทรัพย์ในทรัพยากรเหล่านี้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. จึงเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาจนเกิดเป็นชุมชนต้นแบบ สะท้อนสายสัมพันธ์เข้มแข็งระหว่างวิถีชีวิต ชุมชน และธรรมชาติอย่างลงตัว พร้อมให้นักท่องเที่ยวแวะเยี่ยมเยือน

          เสน่ห์ของชุมชนบางปูเห็นทีจะหนีไม่พ้นความน่ายลของธรรมชาติ มีลักษณะเป็นป่าชายเลน ติดกับทะเลอ่าวไทย พร้อมด้วยป่าโกงกางเขียวขจี เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์ปีกนานาชนิด นอกจากนี้ในพื้นที่อ่าวบางปูเมื่อครั้งอดีต ยังเป็นเมืองท่าที่มีการติดต่อค้าขาย และเส้นทางการเดินเรือในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏหลักฐานซากเรือโบราณจมอยู่ใต้ท้องทะเล เหล่านี้สะท้อนถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิหลังวิถีชีวิต ที่ยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน

          ทั้งนี้ กิจกรรมหลักของการท่องเที่ยวในชุมชน ได้แก่

          - ล่องเรือชมอุโมงค์ป่าโกงกาง

          นักท่องเที่ยวจะเข้าเที่ยวชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยเรือประมงพื้นบ้าน ลอดซุ้มอุโมงค์โกงกางที่มีความยาวกว่า 500 เมตร เมื่อเข้ามาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เหยียบรากป่าโกงกาง ไม่เพียงแต่สัมผัสที่รู้สึกในทุกก้าวเท่านั้น ฝ่าเท้าของเราก็จะได้รับการกระตุ้นให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย

          - ชิมขนมพื้นบ้านอร่อย ๆ

          ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบางปู ยังมีวิถีการทำขนมที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง “มาดูฆาตง” หรือขนมรวงผึ้ง เป็นอาหารว่างที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นิยมกิน มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ แป้งข้าวเหนียว, กะทิ, น้ำตาล และมะพร้าวทึนทึก ทำการนวดแป้งให้เหนียว แล้วนำไปปั้นกับซีกไม้ไผ่ จากนั้นค่อยนำไปย่าง พร้อมโรยน้ำตาล แล้วกินตอนร้อน ๆ  

          - ยลวิถีประมงพื้นบ้าน

          อาชีพการทำประมงพื้นบ้าน นับเป็นเอกลักษณ์อยู่คู่ชุมชนบางปู ด้วยเพราะลักษณะภูมิประเทศเป็นคลองน้ำกร่อย จึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยกัน สัตว์พื้นถิ่นสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ในพื้นที่อ่าวบางปูยังมี “สาหร่ายผมนาง” ซึ่งชาวบ้านนิยมนำมาประกอบอาหาร หรือบางคนก็เก็บไปขายเพื่อนำไปเป็นอาหารของสัตว์

          - ทัศนาอ่าวบางปูยามเย็น

          ทุกวันช่วงเย็นใกล้พลบค่ำ เป็นเวลาที่เราจะเพลิดเพลินไปกับเหล่าบรรดาฝูงนกชนิดต่าง ๆ กางปีกสยายเพื่อบินกลับสู่รัง ไม่ว่าจะเป็นนกกระยาง นกกาน้ำ และเหล่าบรรดานกอีกหลากหลายชนิด เรียกร้องความสนใจให้เราจ้องมองไม่วางตา หากยังไม่รีบไปไหน พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งกิจกรรมต้องชม นั่นคือ การชมหิ่งห้อย ซึ่งมีอยู่ในบริเวณอ่าวบางปูเป็นจำนวนมาก อันเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ตื่นตากับแสงสว่างระยิบระยับ แน่นอนเลยว่าคุณน่าจะไม่เคยเห็นบรรยากาศเหล่านี้มาก่อนแน่ ๆ ทำเอาผู้มาเยือนประทับใจกันเป็นแถว ๆ

          - ชมประติมากรรมปูดำ

          ตั้งอยู่ที่ “บ้านบาลาดูวอ” ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ของกลุ่มการท่องเที่ยวโดยชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบางปู ทั้งนี้ ชุมชนได้จัดสร้างประติมากรรมปูดำไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

          - ดื่มด่ำวิวสวย ณ จุดชมวิว 180 องศา

          ตื่นตากับวิวสวย มีลักษณะเป็นแพไม้ไผ่ต่อกัน สามารถรองรับคนได้ประมาณ 50 คน นอกจากนี้ยังเป็นจุดพักผ่อนชมวิว และชมพระอาทิตย์ตกดิน ตลอดจนการทำกิจกรรมทางทะเลต่าง ๆ อย่างกินอาหารและนอนดูดาว เป็นการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง

          ชุมชนบางปู ยังคงเป็นชุมชนที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ รวมถึงยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้คนทั่วไปที่สนใจได้เข้าร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ล่องเรือศึกษาความงดงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ตลอดจนเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตและชุมชน และพัฒนากลายเป็นต้นแบบชุมชนเข้มแข็งด้านท่องเที่ยวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์ cpot.in.th
เว็บไซต์ soreda.oas.psu.ac.th