ผ้าสุโขทยพัสตร์ ผ้าทอผืนงามแห่งเมืองมรดกโลก
อพท. ชวนไปสัมผัสกับความงดงามของผ้าสุโขทยพัสตร์ ผ้าทอโบราณอันเลื่องชื่อของเมืองสุโขทัย เมืองแห่งการเรียนรู้และเป็นเมืองมรดกโลกของไทย ที่ควรค่าแก่การปักหมุดไปเยือนสักครั้ง
สุโขทยพัสตร์…ในลวดลายและความหมายแห่งเมืองเก่า
ผ้าสุโขทยพัสตร์ คือหนึ่งใน ‘ผ้าลายอย่าง’ หรือผ้าที่เต็มไปด้วยกระบวนการสร้างอันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สิ่งทอในอาเซียน ฉายภาพการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าและวันธรรมในอดีตไว้ได้อย่างชัดเจนที่สุด ทั้งยังเชื่อมโยงค่านิยม ความคิด และความเชื่อทางพระพุทธศาสนา
เดิมทีช่างไทยในราชสำนักจะออกแบบลวดลายผ้าแล้วส่งผ้าฝ้ายดิบไปพิมพ์ลายผ้าที่ประเทศอินเดียเนื่องจากเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสิ่งทอในยุคนั้น ลวดลายที่ได้จึงมักมีการผสมผสานระหว่างลายไทย อินเดีย และตะวันออกลาง นั่นจึงเป็นที่มาของการเรียกขานว่า ‘ผ้าลายอย่าง’ หรือ ‘ผ้าลายนอกอย่าง’
ทั้งนี้ ผ้าลายอย่างตามขนบของผ้าโบราณจะต้องประกอบด้วยกรวยเชิง สังเวียนผ้าและท้องผ้า ไล่เรียงลวดลายแตกต่างกันไปในผ้าแต่ละผืน ผ้าลายอย่างในอดีตจึงเป็นของสูงมีค่า และเป็นสิ่งที่บ่งบอกฐานันดรของผู้สวมใส่ ซึ่งผ้าในราชสํานักมักเป็นผ้าที่พิมพ์ลวดลายไทยชั้นสูงลงบนผืนผ้า ส่วนที่ใช้นอกราชสํานักจะมีลวดลายธรรมดาสามัญแตกต่างกันไป
ผ้าสุโขทยพัสตร์ ผืนแรกของโลก
จวบจนถึงยุคปัจจุบัน การเกิดขึ้นของผ้าสุโขทยพัสตร์ เกิดจากการร่วมมือของภาครัฐ ภาควิชาการ และประชาชนผู้นิยมผ้าสุโขทัย ด้วยมุ่งหวังให้สุโขทัยมีผ้าผืนงามที่สะท้อนความเป็นอาณาจักรโบราณอันทรงคุณค่าด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรม อาจารย์เศรษฐมันตร์ กาญจนกุล ศิลปินผู้ออกแบบลายผ้าสุโขทยพัสตร์ผืนแรกของโลก มุ่งเน้นให้ผ้าลายอย่างสะท้อนถึงลวดลายประดับโบราณสถาน และถูกนำมาพิมพ์ลายด้วยขั้นตอนสมัยใหม่ลงบนผ้าฝ้ายทอเนื้อละเอียด
ผ้าสุโขทยพัสตร์ ได้ถูกพิมพ์ออกมาเป็นผ้าผืน 2 ลาย 3 สี ได้แก่ “รุ่งอรุณแห่งความสมบูรณ์” โดยท้องผ้าเป็นลวดลายปลาตะเพียนทอง ก้านแย่งเป็นรวงข้าวสีทอง สีพื้นท้องผ้าสวยสดด้วยสีแดงหมากสุก ‘พุดตานทิพย์ก้านแย่ง’ ประกอบด้วย 2 สี คือสีหุงดินตัดเจือดฝาดและสีเลื่อมประภัสสระ ซึ่งผ้าทั้งหมดนั้นมีองค์ประกอบของผ้าครบถ้วน ทั้งช่องแทงท้อง สังเวียน ขนาบ เนื่อง และกรวยเชิง
หากจะบอกว่า ผ้าลายอย่างสุโขทยพัสตร์ถือเป็นต้นทางของการสร้างสรรค์ผ้าลายอย่างประจำเมืองก็คงจะไม่ผิดนัก และทำให้สุโขทัยมีผ้าทอเพิ่มขึ้นมาอีกชนิด เป็นผ้าที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของเมืองได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผ้าทอที่ถูกผลิตขึ้นในครั้งนี้มีเพียงแค่ 300 ผืน และเมื่อเสร็จสิ้นการส่งมอบถึงมือเหล่าคนรักผ้าแล้วจะมีการทุบแบบพิมพ์ทั้งหมดเพื่อคงลวดลายที่มีเอกลักษณ์และมีจำนวนจำกัด